สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 5
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 957
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 12,954,009
29 เมษายน 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
 
10  11  12  13 
14  15  16  17  18  19  20 
21  22  23  24  25  26  27 
28  29  30         
             




               
 Webboard

สำหรับท่านใดที่ต้องการโพสข้อความติ-ชม ศูนย์ซ่อมสีรถที่ท่านไปเจอมา ขอความกรุณาโพสรูปภาพรถของท่านทุกครั้งเพื่อยืนยัน  และป้องกันไม่ให้ อู่สีถูกกล่าวหาเพียงฝ่ายเดียว 


                                                                                                                   

www.thaiwebber.com > สนทนาเกี่ยวกับประกันภัย > ขับรถเข้าเมืองจะปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 หรือไม่ ?
  ผู้เขียน
 หัวข้อ : ขับรถเข้าเมืองจะปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 หรือไม่ ? (อ่าน 1098)   
Taw
Guest
เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2563 17:08 น.
หลายคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตอนเช้าในหลายพื้นที่ จากการสังเกตท้องฟ้ายามเช้าจะพบความหนาแน่นของฝุ่นละอองที่มองเห็นคล้ายหมอก ที่เกิดจากฝุ่นขนาดเล็กเกาะตัวร่วมกับกลุ่มหมอก กลายเป็นหมอกที่มีสีน้ำตาลจางๆ ซึ่งเกิดจากฝุ่นและหมอกรวมกัน จึงทำให้เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่เมื่อสายก็ยังไม่สลายไป ซึ่งเป็นกลุ่มฝุ่นควันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หากสูดดมเข้าไปเกิดการสะสมต่อเนื่อง แล้วการขับรถซึ่งเราอยู่ในรถจะปลอดภัยจากฝุ่น "PM2.5 " ได้หรือไม่ มีความเสี่ยงแค่ไหน และ ควรทำอย่างไรบ้างกับรถยนต์ในช่วงภาวะมีมลพิษทางอากาศสูง มีคำแนะนำมาบอกกันดังนี้


อยู่ในรถปลอดภัยจากฝุ่นหรือไม่ ?

รถยนต์ที่มีกรองอากาศที่ดีและสามารถกรองกลิ่นได้ ก็ไม่ปลอดภัยจากฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ทั้งหมด แต่ไม่เสี่ยงเท่ากับการเดินข้างถนน สามารถการขับรถตามปกติก็ไม่ได้เป็นอันตราย เว้นเสียแต่เปิดกระจกขณะขับรถ หรือหากรถของเรามีปัญหาเรื่องการกรองอากาศ หรืออากาศภายนอกเข้าสู่รถได้ เช่นได้กลิ่นเหม็นควันรถขณะรถติดไฟแดง ควรนำไปตรวจเช็ค หรือ เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ



อย่าลืมเปิดระบบแอร์หมุนวนภายในรถ?

ควรเปิดระบบอากาศหมุนวนภายในห้องโดยสาร เพื่อปิดช่องรับอากาศจากภายนอก แล้วใช้อากาศภายในห้องโดยสารหมุนเวียน ผ่านช่องที่อยู่บริเวณคอนโซลหน้ารถผ่านกรองแอร์แทน



ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศตอนไหน?
แผ่นกรองอากาศแอร์ควรเปลี่ยนอย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก ๆ 15,000 กิโลเมตร

ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มีช่องสำหรับกรองแอร์ควรตรวจเช็คดู เพราะบางครั้งรถยนต์รุ่นนั้นมีที่ใส่กรอง แต่ไม่มีกรองอยู่ก็ได้ ตำแหน่งของกรองแอร์ส่วนใหญ่อยู่หลังลิ้นชักฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า

หากรถยนต์ของไม่มีกรองแอร์ ก็สามารถเพิ่มกรองอากาศได้ ติดตั้งกรองแอร์บริเวณที่ดูดลมภายในห้องโดยสาร หรือซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถแทนได้



สำหรับข้อแนะนำข้างต้นเป็นทางรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่การแก้ปัญหาจากต้นเหตุ ซึ่งเราเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกทางหนึ่ง ก็คือการหมั่นดูแลรักษารถของเราให้ดีอยู่เสมอ หากรถของเรามีอายุการใช้งานมากก็ต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษต้องตรวจเช็คตามระยะเวลา ไม่ให้เกิดควันพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่เป็นอันตรายนั้นเอง การขับรถในเมืองจะพบกับปัญหามากมาย ทั้งฝุ่นควัน การจราจรที่คับคั่ง อุบัติเหตุ นอกจากการป้องกันมลพิษเเล้ว อย่าลืมป้องกันทุกอุบัติเหตุด้วย[url=https://www.smk.co.th/premotor.aspx]ประกันรถยนต์[/url]ด้วย



Reply ตอบกลับกระทู้

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

    แนบไฟล์ :
(ขนาดไฟล์ไม่เกิน 2 MB.)
    ผู้เขียน : *
    E-mail : *
 ไม่ต้องการแสดง E-mail
    รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป
Copyright © 2008 All Rights Reserved.by
thaiwebber.com